วันอังคารที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2552

เจ้าหญิงนิทรา_การตาย

คนที่ต้องหลับนิทราเพราะได้รับความกระทบกระเทือนทางสมอง ต้องนอนหายใจไปวันๆ รอกระทั่งหมดลมหายใจ กลายเป็น "พืช" แบบนี้ บางทีเป็นหัวหน้าครอบครัวหรือเจ้าของกิจการที่ต้องทำงาน หรือจัดการทรัพย์สินทั้งหลาย ก็ทำอะไรไม่ได้กลายเป็นความเสียหายแก่หลายคน แม้จะนอนหลับเป็นตายอย่างนี้ ญาติพี่น้องส่วนใหญ่ก็ไม่อยากให้ตายจากไป หวังปาฏิหาริย์จะทำให้ฟื้นคืนกลับมา แต่บางครอบครัวก็กลัวคนป่วยจะทรมาน อยากดึงสายยางสายหายใจให้ตายๆ ไปดีกว่าหมอก็บอกว่าแบบนี้มีแต่รอวันตาย หรือบางรายถึงกับวินิจฉัยว่าตายแล้ว อย่างนี้ญาติคนไหนจะอาจหาญไปแจ้งตายที่อำเภอ เพราะตามความเข้าใจของเราท่าน การจะถือว่าเขาตายก็ต่อเมื่อเขาไม่หายใจ แล้วปั๊มไม่ฟื้นขึ้นมานั่นแหละ ตายหรือยังมีปัญหาทางกฎหมาย เพราะมีหนี้สินทรัพย์สินและกิจการมากมายที่คนนั้นมีไว้ เช่น ทำสัญญาจะซื้อจะขายเอาไว้ ถึงกำหนดจดทะเบียนโอนขาย แต่ทำไม่ได้เพราะนอนนิทราอยู่ ฝ่ายคนซื้อหรือคนขายอีกฝ่ายก็ต้องเร่งซื้อเร่งขายไม่เช่นนั้นจะเสียหาย หรือว่าต้องเป็นคนเซ็นเช็คจ่ายเงินเดือนลูกน้อง หรือต้องเบิกต้องถอนเงินจากธนาคารมาใช้จ่ายในบ้าน ก็เป็นอันทำอะไรไม่ได้เลย

กฎหมายท่านก็ไม่ได้ให้คำอธิบายคำว่า "ตาย" เอาไว้ว่าจะมีความหมายอย่างไร โดยถือเป็นปัญหาข้อเท็จจริงที่ต้องอ้างอิงความเห็นทางการแพทย์ ซึ่งบอกว่าถ้าสมองตาย ก็เท่ากับคนคนนั้นตายแล้ว แต่สมองต้องตายแบบสิ้นเชิงด้วย คือแกนสมองถูกทำลายสิ้นสุดการทำงานอย่างเด็ดขาด ไม่ใช่ยังมีโอกาสอยู่บ้าง อย่างนี้คนที่ต้องการแจ้งตายก็ทำได้ แต่น่าจะใช้วิธีทางศาลให้มีการไต่สวนให้ชัดเจนว่าตายจริงๆ แต่ส่วนใหญ่เมื่อหมอบอกว่าตายก็ถอดสายรั้งชีวิตออกไป แล้วรอให้ลมหายใจหมดไปเป็นอันจบกัน ไม่งั้นมันไม่แล้วแก่ใจ

สำหรับรายที่ยังต้องการยื้อชีวิตไว้ หรือว่าแกนสมองยังไม่ได้ตายโดยสิ้นเชิง จะไปรอให้เขาฟื้นคืนมาเสียก่อนค่อยจัดการงานต่างๆ ก็อาจเสียหายได้ กฎหมายก็เลยจัดให้โดยอาศัยคำสั่งศาลว่าคนคนนั้นเป็นคนเสมือนไร้ความสามารถ เพราะไม่สามารถประกอบการงานอะไรได้ญาติที่ว่าไว้จะต้องมีความเกี่ยวพันเป็นคู่สมรส หรือเป็นลูก เป็นหลานเหลน หรือเป็นพ่อแม่ปู่ย่าตายาย แม้แต่ทวดทั้งหลายหากยังอยู่ ก็ยื่นเรื่องได้ เมื่อเขาทำอะไรไม่ได้เสมือนกับไร้ความสามารถ ต้องมีคนจัดการแทนให้ กฎหมายใช้คำว่า "ผู้พิทักษ์" แต่ก็ต้องให้ศาลตั้งให้เหมือนกัน และจะให้ใครที่ไว้ใจได้เป็นก็ได้ไม่ต้องเป็นญาติ ขอเพียงแต่อย่าเป็นคนไร้ความสามารถเสียเองหรือว่าล้มละลาย เมื่อเป็นผู้พิทักษ์แล้วก็หมายความว่า มีหน้าที่ต้องดูแลการจัดการทรัพย์สินทั้งหลายของผู้เสมือนไร้ความสามารถ จะทำอะไรต้องได้รับความยินยอมจากผู้พิทักษ์เสียก่อน แต่เมื่อคนเสมือนไร้ความสามารถกลายเป็นเจ้าหญิงหรือเจ้าชายนิทรา ไม่สามารถทำการงานได้เลย แบบนี้ต้องร้องขอศาลให้ผู้พิทักษ์มีอำนาจในการจัดการแทนได้เลย แต่ถ้าปาฏิหาริย์คนนั้นเกิดฟื้นคืนมาเหมือนปกติเมื่อไร ก็สามารถร้องขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งเก่าได้ หรือจะเปลี่ยนผู้พิทักษ์เสียใหม่ก็ได้หากมีอะไรที่ไม่ชอบมาพากล ก็ไม่ต้องห่วงว่าอะไรๆ ก็ทำไม่ได้ แม้หมอจะบอกว่าเขาตายแล้วแม้จะยังหายใจ และญาติยังหวังว่าจะกลับมาหายได้ในที่สุด ระหว่างที่ยื้อยุดฉุดชีวิตกันอยู่นั้น เราก็เอามาตรการทางกฎหมายมาใช้บรรเทาได้

1 ความคิดเห็น:

  1. น่าสนใจมากค่ะ ได้มุมมอง และทางออกทางกฎหมายดีดีอีกหนึ่งวิธีค่ะ

    ตอบลบ